ส.1 การสืบค้น

ส.1 การสืบค้น

1.ข้อมูลเบื้องต้นของผู้ประกอบการ

ธรรมรสฟาร์มผึ้ง

ผึ้งที่เลี้ยงใน ฟาร์มผึ้ง ธรรมรส จัดเป็นผึ้งโพรง สายพันธ์ตะวันตก เป็นผึ้งท้องถิ่นแถวแอฟริกา และยุโรป ซึ่งมีศักยภาพในเรื่องของการสะสมน้ำหวานค่อนข้างดีกว่าผึ้งพันธ์ชนิดอื่นๆ
ผึ้งโดยพฤติกรรม จะดูดน้ำหวานจากดอกไม้ ผ่านท่อทางเดินอาหาร เข้าสู่กระเพาะพักน้ำผึ้ง (ผึ้งมี 2 กระเพาะ) จากนั้นเอมไซม์ในต่อมน้ำลายของผึ้งจะย่อยน้ำหวานจากดอกไม้ ให้กลายเป็นน้ำผึ้งออกมา แล้วเก็บไว้ในหลอดรวงรัง เมื่อน้ำหวานมีปริมาณมากผึ้งจะสะสมกักตุนไว้สำรองเป็นอาหารในยามขาดแคลน ในส่วนที่กักตุน ผึ้งจะบ่มน้ำหวานเรียกว่าน้ำผึ้งบ่มสุก เขาจะไล่ความชื้นให้เหนียวเข้มข้น และสร้างไขปิดหลอดรวงผึ้งไว้ เป็นการถนอมอาหารของผึ้ง

น้ำผึ้งส่วนที่ผึ้งบ่มสุกได้ที่แล้ว ถือว่าเป็นน้ำผึ้งที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งจะเหนียว เข้มข้น เก็บไว้ได้นาน ฟาร์มธรรมรส นอกจากจะได้น้ำผึ้งแล้ว ก็นำมาแปรรูปเป็นของบริโภคหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค

ผึ้ง จัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ไฟลัมอาร์โธรพอด จัดเป็นแมลงชนิดหนึ่งอาศัยรวมกันอยู่เป็นฝูง โดยส่วนใหญ่จะออกหาอาหารเป็นน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพืชในการผสมพันธุ์ ผึ้งทำงานกันเป็นระบบ มีผึ้งนางพญาเป็นหัวหน้าใหญ่

ลักษณะทั่วไปของผึ้ง แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน คือส่วนหัว ประกอบด้วยอวัยวะรับความรู้สึกต่าง ๆ ที่สำคัญ คือ

ตารวม มีอยู่ 2 ตา ประกอบด้วยดวงตาเล็ก ๆ เป็นรูปหกเหลี่ยมหลายพันตา รวมกัน เชื่อมติดต่อกันเป็นแผง ทำให้ผึ้งสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้รอบทิศ ตาเดี่ยว อยู่ด้านบนส่วนหัว ระหว่างตารวมสองข้าง เป็นจุดเล็ก ๆ 3 จุด อยู่ ห่างกันเป็นรูปสามเหลี่ยม ซึ่งตาเดี่ยวนี้จะเป็นส่วนที่รับรู้ในเรื่องของความเข้มของแสง ทำให้ผึ้งสามารถแยกสีต่าง ๆ ของสิ่งของที่เห็นได้ ฟริช ดาร์ล ฟอน ได้ทำการศึกษาและพบว่าผึ้งสามารถเห็นสีได้ 4 สี คือ สีม่วง สีฟ้า สีฟ้าปนเขียว และสีเหลือง ส่วนช่วงแสงที่มากกว่า 700 มิลลิไมครอน ผึ้งจะมองเห็นเป็นสีดำ

หนวด ประกอบข้อต่อและปล้องหนวดขนาดเท่า ๆ กันจำนวน 10 ปล้อง ประกอบเป็นเส้นหนวด ซึ่งจะทำหน้าที่รับความรู้สึกที่ไวมาก

ที่มา : http://thammarosbeefarm.blogspot.com/2013/07/blog-post_8910.html?m=0

ชื่อผู้ประกอบการ: คุณประไพ ปทุมสุข

ตำแหน่งงาน : เจ้าของกิจการธรรมรสฟาร์มผึ้งประสบการณ์ทำงาน 10 ปี

ชื่อประธานกลุ่ม/เจ้าของกิจการ/ผู้มีอำนาจตัดสินใจ : นางประไพ ปทุมสุข

แผนที่ :



ข้อมูลเบื่องต้นของผลิตภัณฑ์

ได้รับการอบรมจาก เกษตรอำเภอทัพทัน เริ่มศึกษาเรียนรู้ ปีแรกเลี้ยงได้ 200 ลัง จนถึงปัจจุบันเลี้ยงผึ้งได้ 4 ปี เลี้ยงผึ้ง 400 รัง เริ่มตั้งแต่ปี 2546-255

น้ำผึ้ง เป็นอาหารหวานที่ผึ้งผลิตโดยใช้น้ำต้อยจากดอกไม้ น้ำผึ้งมักหมายถึงชนิดที่ผลิตโดยผึ้งน้ำหวานในสายพันธุ์[Apis] เนื่องจาก เป็นผึงเก็บน้ำหวานให้คุณภาพสูง และสามารถเลี้ยงระบบกล่องได้ น้ำผึ้งมีประวัติการบริโภคของมนุษย์มายาวนาน และถูกใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด น้ำผึ้งยังมีบทบาทในศาสนาและสัญลักษณ์นิยม รสชาติของน้ำผึ้งแตกต่างกันตามน้ำต้อยที่มา และมีน้ำผึ้งหลายชนิดและเกรดที่สามารถหาได้ นอกจากนี้ ยังมีภูมิปัญญาที่ใช้น้ำผึ้งในการรักษาอาการเจ็บป่วย

ผึ้ง จัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ไฟลัมอาร์โธรพอด จัดเป็นแมลงชนิดหนึ่งอาศัยรวมกันอยู่เป็นฝูง โดยส่วนใหญ่จะออกหาอาหารเป็นน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพืชในการผสมพันธุ์ ผึ้งทำงานกันเป็นระบบ มีผึ้งนางพญาเป็นหัวหน้าใหญ่

ลักษณะทั่วไปของผึ้ง แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน คือส่วนหัว ประกอบด้วยอวัยวะรับความรู้สึกต่าง ๆ ที่สำคัญ คือ

ตารวม มีอยู่ 2 ตา ประกอบด้วยดวงตาเล็ก ๆ เป็นรูปหกเหลี่ยมหลายพันตา รวมกัน เชื่อมติดต่อกันเป็นแผง ทำให้ผึ้งสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้รอบทิศ ตาเดี่ยว อยู่ด้านบนส่วนหัว ระหว่างตารวมสองข้าง เป็นจุดเล็ก ๆ 3 จุด อยู่ ห่างกันเป็นรูปสามเหลี่ยม ซึ่งตาเดี่ยวนี้จะเป็นส่วนที่รับรู้ในเรื่องของความเข้มของแสง ทำให้ผึ้งสามารถแยกสีต่าง ๆ ของสิ่งของที่เห็นได้ ฟริช ดาร์ล ฟอน ได้ทำการศึกษาและพบว่าผึ้งสามารถเห็นสีได้ 4 สี คือ สีม่วง สีฟ้า สีฟ้าปนเขียว และสีเหลือง ส่วนช่วงแสงที่มากกว่า 700 มิลลิไมครอน ผึ้งจะมองเห็นเป็นสีดำ

หนวด ประกอบข้อต่อและปล้องหนวดขนาดเท่า ๆ กันจำนวน 10 ปล้อง ประกอบเป็นเส้นหนวด ซึ่งจะทำหน้าที่รับความรู้สึกที่ไวมาก

นมผึ้ง (Royal Jelly)

นมผึ้ง หรือ รอยัลเยลลี่ (Royal Jelly) เป็นสารชนิดหนึ่งที่ผลิตจากต่อมพิเศษข้างศีรษะของผึ้งงานที่มีอายุ 5-15 วัน ที่ทำหน้าที่เป็นผึ้งพี่เลี้ยง มีลักษณะเป็นครีมสีขาวคล้ายนมข้นหวานมีกลิ่นออกเปรี้ยว และรสค่อนข้างเผ็ดนิด ๆ นมผึ้งคืออาหารสำหรับตัวอ่อนของผึ้งและราชินี ตัวอ่อนของผึ้งงานจะได้รับนมผึ้งเพียง 3 วันแรกที่ออกจากไข่ ขณะที่ตัวอ่อนที่ได้รับคัดเลือกเป็นราชินีจะได้รับนมผึ้งนี้ตลอดชีวิต ซึ่งช่วยบำรุงให้ราชินีผึ้งมีอายุยืนนานกว่า (ราชินีผึ้งมีอายุประมาณ 4-5 ปี ผึ้งงานมีอายุประมาณ 45 วัน) และมีขนาดและน้ำหนักตัวมากกว่าผึ้งชนิดอื่น รวมทั้งทำให้ราชินีผึ้งสามารถออกไข่ได้วันละประมาณ 2,000-3,000 ฟอง และจะวางไข่ทุกวันตลอดอายุขัย



องค์ประกอบของนมผึ้ง

จากการวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์ที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่านมผึ้งมีส่วนประกอบ ดังต่อไปนี้

- น้ำ ประมาณร้อยละ 67-70

- คาร์โบไฮเดรต ร้อยละ 10-12

- โปรตีน ประมาณร้อยละ 14-15

- ไขมัน ประมาณร้อยละ 3-5

ส่วนประกอบที่เหลือประมาณร้อยละ 1-2ประกอบด้วยวิตามิน เกลือแร่ต่าง ๆ รวมถึงฮอร์โมน สารฆ่าเชื้อธรรมชาติบางชนิด และสารประกอบชีวเคมี อะเซตทิลคลอไรด์กับไอโนซิทอล คาร์โบไฮเดรตในนมผึ้งเป็นน้ำตาลธรรมชาติเช่นเดียวกับกลูโคส ฟรุกโตส และซูโครส โปรตีนในนมผึ้งประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายซึ่งมีอยู่ในนมผึ้งอย่างสมดุลย์ สำหรับไขมันในนมผึ้งมีเพียงเล็กน้อย ซึ่งปัจจุบันมีคำแนะนำว่า อาหารเสริมสุขภาพที่ดีต้องมีไขมันเจือปนในปริมาณต่ำ

นมผึ้งอุดมด้วยวิตามินหลายชนิด ที่สำคัญคือวิตามินบี ซึ่งได้แก่ วิตามินบี 1 (ไธอามีน) วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) เนียซิน กรดแพนโททินิก และไบโอติน และยังมีวิตามินบี 6 (ไพริดอกซิน) ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อกระบวนการทำงานของโปรตีน และเชื่อกันว่าเป็นวิตามินต่อต้านความเครียด รวมถึงกรดฟอลิกและวิตามินบี 12วิตามินทั้งสองชนิดสามารถป้องกันโรคโลหิตจางได้

เกลือแร่ที่มีในนมผึ้ง ได้แก่ แคลเซียม ทองแดง เหล็ก ฟอสฟอรัส โปตัสเซียม ซิลิคอนและกำมะถัน นอกจากนี้ยังมีอะเซตทิลคลอไรด์ (1 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักนมผึ้ง 1 กรัม) ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นต่อระบบการทำงานของประสาทในมนุษย์ ส่วนประกอบอีกตัวคือสารประกอบชีวเคมีไอโนซิทอล ซึ่งช่วยขจัดไขมันตกค้างในตับ ลดคลอเรสเตอรอลในเส้นเลือด และยังเป็นสารต่อต้านความเครียดอ่อน ช่วยบำรุงรักษาเส้นผม

ผลทางชีวภาพของนมผึ้ง

1. ผลทางกระตุ้นชีวภาพ เพิ่มอัตราการดูดซับอาหารและออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง และเพิ่มอัตราขับถ่ายของเสียและคาร์บอนไดออกไซด์

รับประทานก่อนอาหาร 30 นาที จะเรียกน้ำย่อยรู้สึกอยากอาหาร

รับประทานหลังอาหาร จะกระตุ้นการใช้อาหารและเผาผลาญให้พลังงานที่สมบูรณ์

รับประทานก่อนนอน มีผลทางซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและกระตุ้นให้ร่างกายแข็งแรงกระฉับกระเฉง เตรียมพร้อมสู้งานหนักในวันรุ่งขึ้น

2. ผลต่อฮอร์โมน กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพศหญิงและชายให้ได้สมดุลย์ และเพิ่มสมรรถภาพทางสร้าสเปริม์และช่วยการสุกของไข่ในสตรีมีประจำเดือนมาไวและหมดประจำเดือนช้า ช่วยให้คงความสาวได้นานกว่าปกติ ในผู้ชายจะเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้คงอยู่ได้นาน

3. ผลทางการสร้างเม็ดเลือดและความแข็งแรงของกระดูก ในเด็กเล็กและคนสูงอายุจะเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก และช่วยการสร้างเม็ดเลือดแดงให้สมบูรณ์แข็งแรงขึ้น ช่วยดูดซับอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

4. ผลต่อระบบหมุนเวียนโลหิต ช่วยให้หัวใจเต้นดีขึ้น ทำให้สูบฉีดโลหิตหมุนเวียน ผ่านสมอง ปอด ตับ ไต และแขนขาได้ดีขึ้น คนสูงอายุหรือผู้ป่วยจะรู้สึกอบอุ่นและสดชื่น

5. ผลต่อเม็ดเลือดขาวและระบบภูมิต้านทาน จะเสริมสร้างเม็ดเลือดขาวทุกส่วนให้สมบูรณ์ เพิ่มความต้านทานและขจัดพิษหรือทำลายเชื้อโรคได้ดีขึ้น พร้อมทั้งฟื้นฟูสมรรถภาพของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายหลังเจ็บปวยหรืออุบัติเหตุ

6. ผลต่อระบบเมตาโบลิซึม ควบคุมการเก็บและการใช้น้ำตาล โปรตีน และไขมันในเลือดให้ปกติ ควบคุมแร่ธาตุแลอิเล็กโตไลท์ในเลือดให้สม่ำเสมอ การทำงานของระบบกล้ามเนื้อและประสาทต่าง ๆ ทั่วร่างกายเป็นไปตามปกติ

7. ผลต่อการสร้างเซลส์ใหม่และเนื้อเยื่อใหม่ ควบคุมการสร้างเซลส์และเนื้อเยื่อที่ฉีกขาด สึกหรอให้ฟื้นคืนสภาพได้รวมเร็วขึ้น ขจัดเซลส์เก่าที่ตายไปตามวงจรชีวิต ป้องกันการเกิดเซลส์ผิดปกติ เช่น เซลส์มะเร็ง

8. ผลต่อการลดการอักเสบของข้อและเนื้อเยื่อต่างๆ มีผลเหมือนสารสเตียรอยด์ แต่อันตรายและผลข้างเคียงไม่มี จึงได้ผลดีในการใช้ร่วมกับยาของแพทย์สำหรับการรักษาการอักเสบของบาดแผล หรือปวดข้อและปวดกระดูกเรื้อรัง

9. ผลต่อการทำให้มีชีวิตที่ยืนยาว เนื่องจากผลโดยส่วนรวมทำให้ระบบต่างๆ ทำงานได้ดี มีสมรรถภาพมากขึ้นและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้ชีวิตคนเรายืนยาวขึ้น

ข้อบ่งใช้ของนมผึ้งเป็นอาหารเสริมในรายการต่อไปนี้

1. กระตุ้นให้ผู้ป่วยที่อาการหนัก ขาดอาหารหรือรับประทานอะไรไม่ได้ให้อยากอาหาร และช่วยให้คนไข้หายป่วยเร็วกว่าปกติ

2. ชาย-หญิงที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

3. ผู้ที่เป็นหมัน เพราะความไม่สมบูรณ์ของร่างกาย

4. กระดูกพรุน ผุกร่อน ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูกและเส้นเอ็นหรือประสาท เพราะความชราภาพ

5. ความผิดปกติทางระบบประสาทสมอง เช่น รายอุบัติเหตุทางประสาท สมอง หรือประสาทชา สมองมึนงง เพราะขาดอาหารและออกซิเจน หรือความจำเสื่อมในวัยชรา

6. โรคผิดปกติเกี่ยวกับเม็ดเลือดและความเข้มข้นของเลือด

7. โรคเมตาโบลิซึมผิดปกติ เช่น ระบบย่อย ระบบขับถ่าย ระบบสรรค์สร้างและทำลายของร่ายกายไม่ปกติ เช่น ต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ เกาท์ ความดันสูง หัวใจ เบาหวาน เบาจืด ไขมันในเลือดสูง

8. โรคผิดปกติเกี่ยวกับระดับฮอร์โมนเพศไม่ได้สมดุลย์ เช่น ปวดศีรษะข้างเดียว ปวดประจำเดือน เป็นสิวมาก เป็นหมันหรือแก่เกินวัย เครียดในวัยใกล้หมดประจำเดือน

9. โรคระบบภูมิต้านทานอ่อนแอหรือไม่มี เช่น โรคภูมิแพ้ เป็นหวัดได้ง่าย โพรงจมูกอักเสบ ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง

เสริมการรักษาของแพทย์ในรายที่เป็นโรคเริม โรคเอดส์ และโรคมะเร็ง





พรอพอลิส (Propolis)

พรอพอลิส เป็นส่วนผสมที่มีลักษณะเหนียวข้นเป็นยาง (Resinous) ได้มาจากยางของเปลือกไม้ที่ผึ้งงานรวบรวมมา โดยเฉพาะยางที่เคลือบอยู่บริเวณตาใบ (leaf buds) หรือยางที่ไหลออกมาจากส่วนต่าง ๆ ของต้นพืช โดยนำมาผสมกับไขผึ้งแล้วนำมาซ่อมแซมรัง อุดชันรอยรั่ว ตลอดจนรักษาความสะอาด และป้องกันการระบาดของเชื้อโรคภายในรังได้ด้วย โดยเมื่อมีซากของศัตรูผึ้งตายอยู่ในรัง และมีขนาดใหญ่ที่ผึ้งไม่สามารถจะนำออกไปทิ้งนอกรังได้ ผึ้งจะนำสารพรอพอลิสมาหุ้มไว้ ทำให้ซากนั้นไม่เน่า

คำว่า พรอพอลิส (Propolis) เป็นภาษากรีก เกิดจากการสมาสคำ 2 คำ คือ Pro ซึ่งหมายถึง ก่อนหรืออยู่ข้างหน้า และคำว่า Polis ซึ่งหมายถึง เมือง เมื่อรวมคำแล้วจึงมีความหมายว่า "หน้าเมืองหรือกำแพงป้องกันเมือง" นั่นเอง



ส่วนผสมและสารสำคัญในพรอพอลิส

ด้วยสรรพคุณที่น่ามหัศจรรย์ของพรอพอลิสทำให้มีการวิเคราะห์หาส่วนผสมและสารสำคัญในพรอพอลิส ซึ่งผลจากการวิเคราะห์ปรากฎว่า พรอพอลิส ประกอบด้วย

- ส่วนผสมของยางไม้และขี้ผึ้ง ประมาณร้อยละ 50-55

- ขี้ผึ้งเหลือง ร้อยละ 30

- น้ำมันหอม ร้อยละ 10-15 และ

- ละอองเกสร ร้อยละ 5

จากส่วนผสมดังกล่าว เมื่อพิจารณาในด้านสารประกอบทางเคมี จะพบสารสำคัญที่ทำให้พรอพอลิสมีคุณสมบัติเป็นสารปฏิชีวนะที่ดีที่สุดตามธรรมชาติ คือ สารประกอบฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชที่เป็นที่รู้จักว่ามีคุณสมบัติในการต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Antioxidant) ต่อต้านเชื้อแบคมีเรีย, เชื้อไวรัส, เชื้อรา และมีคุณสมบัติยับยั้งการอักเสบ

นอกจากนี้ยังพบสารอาหารอื่น ๆ อีกกว่า 22 ชนิด อันได้แก่ กรดอมิโน, คาร์โบไฮเดรต, วิตามินต่าง ๆ, เกลือแร่ เอนไซม์ และสารต้นต่อฮาร์โมนจากธรรมชาติ ฯลฯ


สรรพคุณของพรอพอลิสทางการแพทย์

พรอพอลิสให้ผลทางการแพทย์ใน 2 ลักษณะ คือ กระตุ้นระบบภูมิต้านทานในร่างกาย ซึ่งเป็นระบบอันเป็นกลไกธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ลักษณะที่สองคือออกฤทธิ์ฆ่าหรือทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย อาทิ เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา ตลอดจนเชื้อไวรัสต่าง ๆ อ่อนกำลังหรือไม่สามารถทำอันตรายมนุษย์ได้

- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

สารประกอบฟลาโวนอยด์ในพรอพอลิสมีผลโดยตรงต่อการกระตุ้นเซลส์เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า ฟาโกไซด์ (Phagocyte) ให้มีความสามารถและประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ได้ดีขึ้น รวมทั้งป้องกันการสึกหรอเสื่อมโทรมและชำรุดเสียหายของเซลส์ ตลอดจนสามารถพัฒนาการดูดซึมอาหารที่มีประโยชน์บางชนิดได้ดีขึ้น จึงเป็นผลดีสำหรับแผลที่อยู่ระหว่างติดเชื้อ ทำให้มีการติดเชื้อลดลง รวมทั้งยังเป็นการป้องกันก่อนการติดเชื้ออีกด้วย

- มีฤทธิ์กำจัดการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา

พรอพอลิสไม่เพียงช่วยป้องกันการติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังมีฤทธิ์ฆ่าหรือทำให้เชื้อโรคที่ผ่านเข้าสู่ร่างกายไม่สามารถทำงานได้ ได้มีการทดลองพบว่าพรอพอลิสมีประสิทธิภาพต่อการหยุดยั้งการเจริญเติบโตหรือการทวีปริมาณของเชื้อวัณโรค และป้องกันไม่ให้มันแพร่พันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีฤทธิ์ต่อต้านและทำลายแบคทีเรียได้หลายชนิด รวมทั้งชนิดที่ทำให้เกิดอาการเจ็บคอ (สเตร็ปโตค็อคคัส)

พรอพอลิสมีประสิทธิภาพเป็นยาปฏิชีวนะเหนือกว่าเตทราไซคลีน (Tetracyclin) เพนนิซิลิน (Penicilin) และสเตร็ปโตมัยซิน (Streptomycin) ยาปฏิชีวนะทั้งสามชนิดนี้เป็นผลิตผลจากจุลินทรีย์ ในขณะที่ฟลาโวนอยด์ในพรอพอลิสเป็นผลิตผลจากต้นไม้ ซึ่งร่ายกายมนุษย์มีการตอบสนองต่อการบำบัดด้วยพรอพอลิสได้ดีกว่ายาปฏิชีวนะ ซึ่งมักก่อให้เกิดผลข้างเคียงไม่มากก็น้อย

- เสริมฤทธิ์ยาปฏิชีวนะ

นอกจากมีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะโดยตัวมันเองแล้ว พรอพอลิสยังช่วยเสริมประสิทธิภาพยาปฏิชีวนะอื่น ๆ ให้มีประสิทธิภาพ 10-100 เท่าของประสิทธิภาพเดิม นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะชนิดที่เป็นขี้ผึ้ง หรือน้ำมันสมานแผลได้เป็นอย่างดี

- เป็นสารต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น

สารประกอบฟลาโวนอยด์ในพรอพอลิสมีคุณค่าสูงในการบำรุงรักษาหลอดโลหิตฝอยให้อยู่ในสภาพทีดี นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นเสริมประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซี ด้วยการป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาออกไซด์ เสริมประสิทธิภาพการทำงานในหลอดโลหิต ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นเป็นสาเหตุให้ร่างกายเสื่อมโทรม แก่เร็ว เพราะกลุ่มอณุมูลอิสระในเซลส์จะถูกยึดไว้ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ฟลาโวนอยด์ยังมีขีดความสามารถห่อหุ้มโลหะที่มีน้ำหนักอย่างตะกั่ว ปรอท และแคดเมี่ยม เพื่อป้องกันไม่ให้โลหะเหล่านี้ทำอันตรายแก่ร่างกายได้ รวมทั้งขับสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย อันเกิดจากการผลิตของเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดด้วย

- ออกฤทธิ์ยับยั้งการผลิตพรอสตาแกลนดินส์

เมื่อร่างกายมีการติดเชื้อหรือมีบาดแผล ร่ายกายจะขับพรอสตาแกลนดินส์ (Prostagrandins) ออกจากต่อม ทำให้เกิดความเจ็บปวดบาดแผล แผลอักเสบ และเป็นไข้ตัวร้อน สารประกอบฟลาโวนอยด์ในพรอพอลิสมีฤทธิ์สกัดการผลิตพรอสตาแกลนดิสก์ในร่างกาย จึงช่วยบรรเทาอาการปวดในลักษณะคล้ายแอสไพริน แต่เป็นสารจากธรรมชาติ ไม่ใช่สารชีวเคมีสังเคราะห์ จึงไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ

- ออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารฮิสตามิน

หากร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้ามา อันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ ฮิสตามิน (Histamine) จะถูกขับออกจาก มาสต์เซลส์ (Mastcells) ทำให้เกิดอาการแพ้ ปวดบวม เป็นผื่นแดง หรือคันตามผิวหนัง อาการดังกล่าวจะลดลงถ้ามีสารบางอย่างมาสกัดกั้นการขับฮิสตามิน (แอนติฮิสตามิน : Anti-Histamine) ซึ่งพบว่าสารประกอบฟลาโวนอยด์ในพรอพอลิสมีฤทธิ์ยังยั้งการขับสารฮิสตามินของมาสต์เซลส์ได้ดี

ประโยชน์ของพรอพอลิส

-บรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบของแผล

-บรรเทาอาการบวม เป็นผื่นแดง และคันตามผิวหนังของโรคภูมิแพ้

-บำบัดอาการเจ็บคอ และการอักเสบในลำคอ รวมทั้งอาการผิดปกติอื่น ๆ ในช่องปาก ช่องโพรงจมูกและช่องหู

-บำบัดอาการปวดกล้ามเนื้อ และอาการปวดตามข้อกระดูก รวมถึงอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวอื่น ๆ

-บำบัดรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก โดยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน ลดการอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อ และช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของผิวเนื้อส่วนที่ได้รับความร้อน

-บำบัดอาการช่องท้องและลำไส้เป็นแผล

-บำบัดอาการโรคผิวหนังได้หลายชนิด รวมทั้งสิว อาการผื่นคันตามเนื้อตัว โรคหัด โรคเริม หูด

ที่มา : http://www.thailanna.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=197831



2.ข้อมูลเบื้องต้นผลิตภัณฑ์ที่เลือกมาศึกษาวิเคราะห์และพัฒนา ชนิด/ประเภทสินค้าและบรรจุภัณฑ์

1.ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตัวสินค้า

ชื่อผลิตภัณฑ์ : โลชั่นนมผึ้ง

ประเภท : ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

สถานะผลิตภัณฑ์ : ของเหลว

วิธีบริโภค : ใช้สำหรับบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นตลอดทั้งวัน ใช้ได้บ่อยครั้งตามต้องการ

ส่วนผสม :แก่นมะหาด น้ำผึ้ง นมผึ้ง ไพรพอลิส

สีของผลิตภัณฑ์ : สีน้ำตาลอ่อนครีม

ขนาด/มิติ : ขนาดโดยรวม cm. กว้างxยาวxสูง

ทดลองผลิตภัณฑ์ : มีกลิ่นหอมน้ำผึ้ง เมื่อทาแล้วซึมสู่ผิวช้า

รูปแบบการบรรจุภัณฑ์ : มีการบรรจุภัณฑ์โดยบรรจุของเหลว

ในขวดพลาสติกหัวปั้ม สีขาว คอขวดสีทอง ติดฉลากที่เป็น

ผู้ผลิต : 123 หมู่ 5 บ้านหนองหวาย ตำบลวังตะเคียน

อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท 17120

เบอร์โทรศัพท์ : 08 6206 1814, 08 9858 5336

อีเมลผู้ประกอบการ: tms.beefarm@hotmail.com

Face Book : URL https://www.facebook.com/ThrrmRsFarmPhung

รูปแบบการขาย : ขวด

ราคา : 160 บาท

น้ำหนัก : 180 มิลลิลิตร

การนำส่งสินค้า : ส่งขายในศูนย์ OTOP ตามจังหวัดต่างๆ บูธงานทั่วไป และต่างประเทศ

2. โครงสร้างหลักของตัวบรรจุภัณฑ์

เทคนิคการบรรจุ : ตวงผลิตภัณฑ์ตักใส่ขวด

ใช้เทคนิค / วิธีการ / การบรรจุสินค้า : ขวดทรงสูงมีหัวปั้ม เมื่อกดอากาศจะเข้าไปแทนที่และดันตัวผลิตภัณฑ์ออกมาใช้งาน

ขนาด / มิติ : ทั้งหมดของบรรจุภัณฑ์เส้นผ่านศูนย์กลางกว้าง 5.5 cm สูง 17.1 cm (ตอนกดหัวปั้มวัดได้ 15 cm, เฉพาะตัวขวดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5.5 cm สูง 12.7 c, ตัวฝาเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 cm ฐานกดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.8 cm, ปากขวดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2. cm

สูง 2 cm, หัวกด(ทางออกของตัวผลิตภัณฑ์ตอนที่ใช้) กว้าง 1.5 cm ยาว 4.5 cm สูง 3.5 cm รูผ่านของตัวผลิตภัณฑ์กว้าง 0.4 x0.6 cm,จากปลายสปริงถึงคอฝาขนาด 6 cm สปริงขนาดยาว 3 cm พลาสติกหุ้มสปริง (กลไกภายใน) ยาว 5 cm, หลอดยาว 7 cm เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 cm, ตัวฉลากกว้าง 3.5 cm ยาว 9 cm ห่างจากก้นขวด 1 cm

ห่างจากบนขวด 1 cm

สีของวัสดุบรรจุภัณฑ์ : ขวดพลาสติกทรงเหลี่ยมสูงหัวปั้ม สีขาว คอขวดสีทอง

บรรจุภัณฑ์ทำจาก : ขวดทำจากพลาสติกหมายเลข1 พอลิเอทธิลีนเทเรฟธาเลท (Polyethylne Terephthalate) (PET,PETE) ,ฝาหัวปั้มทำจากพลาสติกหมายเลข 2 พอลิเอธิลีนความหนาแน่นสูง (High Density Polyethylene) (HDPE),สายยางภายในขวดทำจากพลาสติกหมายเลข 3 พอลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride) (V,PVC)

การขึ้นรูปทรง : การอัดฉีดพลาสติกเข้าพิมพ์หล่อพลาสติก

3.การออกแบบกราฟิก

ระบบการพิมพ์ที่ใช้ : Offset Printing บนกระดาษอาร์ตเคลือบมัน

สี / จำนวนสีที่พิมพ์ : เหลือง เขียว ชมพู ดำ ขาว แดง น้ำตาล ส้ม น้ำเงิน โลโก้ : ใช้ตัวอักษรคำว่า ฟาร์มผึ้ง ธรรมรส มีรูปตัวการ์ตูนผึ้งผายมือมาทางซ้าย และรูปผึ้ง

ลวดลาย : ไม่มี พื้นหลัง : ไล่ Gradient สีขาวชมพู ข้อความบนฉลากสินค้า : โลชั่นนมผึ้ง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ใช้สำหรับบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นตลอดทั้งวันใช้ได้บ่อยครั้งตามต้องการ ส่วนประกอบ : แก่นมะหาด น้ำผึ้ง นมผึ้ง และไพรพอลิส (Propolies) ผลิตและจำหน่ายโดย : ธรรมรสฟาร์มผึ้ง 123 บ้านหนองหวาย หมู่ 5 ต. วังตะเคียน อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท 17120 โทร.08 6206 1814,

08 9858 5336 E-mail : tms.beefarm99@hotmail.com www.ธรรมรสฟาร์มผึ้ง 400 ml.

อักษรที่ใช้ : โลชั่น : DSN Single Regular

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ใช้ชุดตัวพิมพ์ : DSE MaiThai

นมผึ้ง ใช้ชุดตัวพิมพ์ : DSN Newspaper Regular

ใช้สำหรับบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นตลอดทั้งวันใช้ได้บ่อยครั้งตามต้องการ ใช้ชุดตัวพิมพ์ : JS Jukaphan

ส่วนประกอบ : แก่นมะหาด น้ำผึ้ง นมผึ้ง และไพรพอลิส (Propolies) ใช้ชุดตัวพิมพ์ : Angsana New

ผลิตและจำหน่ายโดย : ธรรมรสฟาร์มผึ้ง 123 บ้านหนองหวาย หมู่ 5 ต. วังตะเคียน อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท 17120 โทร.08 6206 1814,08 9858 5336 E-mail : tms.beefarm99@hotmail.com www.ธรรมรสฟาร์มผึ้ง ใช้ชุดตัวพิมพ์ : AngsanaDSE

400 ml. ใช้ชุดตัวพิมพ์ : DSN PatPong Extend Regular

โลโก้ผู้ผลิต : ฟาร์มผึ้ง ธรรมรส



 
























ภาพรูปด้านของผลิตภัณฑ์







Package Assembly 



















 รอบแนวคิดในการดำเนินงานรายบุคคล



ดำเนินตามหลักการ 3 ส.


การศึกษาวิเคราะ์ข้อมูลส่วนประกอบของสินค้าและบรรจุภัณฑ์ด้วยวิธีการรับรู้ทางการมองเห็น

(Product and Package Visual Analysis) 


ส่วนประกอบของบรรจุภัณฑ์สินค้าที่มองเห็นของโลชั่นนมผึ้งคำอธิบายข้อมูลบนฉลากสินค้าและโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์



























หมายเลข 1 คือ หัวกดปั้ม

หมายเลข 2 คือ ส่วนฝาปิดบรรจุภัณฑ์

หมายเลข 3 คือ ขวดเหลี่ยมทรงสูงใส

หมายเลข 4 คือ แผ่นสลากปิดบนตัวโครงสร้างบรรจุภัณฑ์เพื่อการสื่อสาร

หมายเลข 5 คือ ข้อความ-กราฟิกอัตลักษณ์แสดงชื่อยี่ห้อสินค้า “ฟาร์มผึ้ง ธรรมรส”

หมายเลข 6 คือ ชื่อสินค้า โลชั่นนมผึ้ง

หมายเลข 7 คือ ข้อความบอกปนะเภทสินค้า

หมายเลข 8 คือ ข้อมูลแจ้งการใช้สินค้า

หมายเลข 9 คือ ข้อมูลแจ้งส่วนประกอบสำคัญของสินค้า

หมายเลข 10 คือ ข้อมูลสถานที่ผลิตข้อมูลตืดต่อ

หมายเลข 11 คือ สัญลักษณ์การรับรองความปลอดภัย-มาตรฐานการผลิต

หมายเลข 12 คือ ปริมาตร-น้ำหนักสินค้า





สัญลักษณ์(symbol)

 


ตราสัญลักษณ์ Otop5ดาว ตรา มผช ตรารับรองคุณภาพ ตรา GMP 












ตรา GMP














ตรา มผช



















ตรารับรองคุณภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น